ความชัดเจนเท่ากับพลัง
บ่อยครั้งที่เรามัวไปเสียดายเวลาของความผิดพลาดในอดีต และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ การที่เราเอาประสบการณ์ในอดีตมาเป็นตัวตัดสินสิ่งที่จะทำในปัจจุบัน ซึ่งในที่สุดก็ลงท้ายที่การ "ไม่ลงมือทำ" ทั้งๆที่ส่วนลึกของเราบอกให้ทำ สาเหตุก็เพียงเพราะกลัวผิดพลาดเหมือนอดีต ทำให้ตกอยู่ในวังวล "การเสียดายเวลาในอดีต"
เรากลับไม่เสียดายเวลาที่เหลือในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า ที่เราไม่รู้ว่ามันมีอีกมากเท่าไหร่ เพียงเพราะเรามัวแต่ไปกังวล เสียดายกับเวลาที่ผ่านมาแล้ว…
คนที่เขาสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ ล้วนเกิดจากการที่เขา "ตัดสินใจเลือก" ว่าจะทำอะไร และทุ่มเทเวลาให้กับมัน พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ "เผื่อเลือก" ว่าถ้าทำสิ่งนี้ไม่ได้ ก็ยังมีสิ่งนั้นให้ทำอยู่ ผลลัพธ์ที่ได้มามันก็เลยเป็นความสำเร็จแบบ "เผื่อว่า" จะได้
ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ คนเหล่านี้ล้วนมีทีมงานที่เก่ง รวมถึงคนข้างกายของเขาด้วย ถ้าหากวันนี้เราต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เราจะปฏิเสธการมีทีมงานที่ดีที่มีฝันและเป้าหมายเดียวกันกับเราไม่ได้เลย เพราะเราคนเดียวไม่ได้เก่งไปหมดทุกอย่าง จำเป็นต้องใช้ความสามารถที่โดดเด่นของแต่ละคนมาช่วยสร้างทีมของเราที่สมบูรณ์เพื่อความสำเร็จที่สมบูรณ์อย่างที่ทุกคนต้องการ
ถ้าหากวันนี้เราปฏิเสธการมีทีมงานที่ดี ก็เท่ากับเราปฏิเสธความสำเร็จ
หลายๆคนถูกมองว่าเขาทำอะไรก็ดีไปหมด ง่ายไปหมด เขาคงมีพรสวรรค์ในเรื่องนั้นๆหรือเป็นเพราะเขาโชคดี แต่ความจริงแล้วถ้าเรามองลงไปให้ลึก สืบค้นลงไปให้ลึกจะพบว่าคนเหล่านั้นใช้พรแสวงกันแทบทั้งนั้น พรสวรรค์ถ้ามีติดตัวมาถือว่าเป็นโบนัส แต่ถ้าไม่ใช้หรือฝึกฝนมันก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน
วันนี้ถ้าเราอยากสำเร็จตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ "เลือกที่จะทำอะไร" และ "เลือกที่จะไม่ทำอะไร" จากนั้นก็ทุ่มเทเวลาลงมือทำในสิ่งนั้น พร้อมๆกับหาทีมงานที่มีวิสัยทัศน์และความฝันเหมือนกันกับเรา แล้วร่วมมือกันในการลงมือทำงานนั้นให้สำเร็จ จึงเป็นที่มาของประโยคที่ว่า "ความชัดเจนเท่ากับพลัง"